เดินทางต่อกันเถอะ.....จากนั้นก็มุ่งหน้า  ขึ้นเมโทรต่อเพื่อเดินทาง  ( หมายความว่าเมโทรอยู่ใต้ดินแล้วเดินขึ้นมาบนถนน
เหมือนรถไฟใต้ดินบ้านไทย ! )ไปถนนสายที่ใหญ่และสวยที่สุดในฝรั่งเศส นั่นก้อคือ ถนนชองเซลิเซ่ ( Champs- Elysée )
( ถนนที่ดาราสาวโฆษณากล้องถ่ายรูป นะ ) ทำไมต้องไปถนนเส้นนี้ เพราะว่า ณ จัตุรัส Place de l’Etoile 
เป็นที่ตั้งของประตูชัยนั่นเอง ( l’Arc de Triomphe ) ยังจำภาพแห่งความตื่นเต้นที่พอขึ้นมาจากเมโทร ก็เจอประตูชัยตั้งเด่น
เป็นตระหง่านอยู่กลางจัตุรัส  มองไปทางไหนก็เจอนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นถ้าหลงทางอยู่แถวประตูชัย 
ต้องแก้ปัญหาโดยการดูแผนที่หรือถามตำรวจเท่านั้น ถามคนที่ผ่านไปมาคงไม่ Work
                      ไม่หลงดีกว่า... ถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นที่ระลึกพอประมาณจากประตูชัยเราจึงเดินทางต่อ ( ด้วยเท้า ) มุ่งหน้าไปชมสิ่ง
  มหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งในปารีสซึ่งสร้างด้วยเหล็กกล้าสูงกว่า 300 เมตรสร้างโดยวิศวกรที่ชื่อ Gustave Eiffel 
 สร้างตั้งแต่สมัยปี 1889 เพื่อร่วมในงาน Expo Universal  สิ่งนั้นก็คือ หอไอเฟล ( la Tour Eiffel ) จะตั้งคำถามก็คงจะตอบถูก
 กันหมด เลยไม่ถามดีกว่า เพื่อนร่วมทางของมาดามก็แหนมองจนคอตั้ง ก็มันสูงนี่นา นักท่องเที่ยวเยอะยังกะมด ไม่รู้ว่ามาจาก
ไหนกัน คงอยากมาดูเหมือนเรานั่นแหละ อีกอย่าง   ช่วงที่เราไปเป็นช่วงแข่งขันชิงแชมป์รักบี้โลก มีนักกีฬารักบี้มาเดินกัน
ให้ขวักไขว่ และมีการตกแต่งประดับไฟสีเขียว-เหลือง...” สวัสดีค่ะ “ มีเสียงทักมาจากนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง มาดาม งงเล็กน้อย 
หนีมาเที่ยวไกลขนาดนี้ยังมีคนรู้จักอีกเหรอ...สรุปได้ความว่าคุณป้าคนที่มาทักขึ้นเครื่องบินลำเดียวกับเราตั้งแต่สุวรรณภูมิ
ิแล้วล่ะ Surprise จริงๆเลยนะเนี่ย คุณป้าบอกว่ามาจากเชียงใหม่ 4-5 ท่าน มาโดยมีลูกศิษย์ทำงานอยู่ที่ ฝรั่งเศส มาดูแล
เนื่องจากเป็นกลุ่มอาจารย์ ทั้งกลุ่ม แล้วก็คุยกันว่าเห็นคนบนเครื่องบินจำนวนหนึ่งแต่ไม่ได้ทัก
เพราะไม่ทราบว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า เพราะอาจเป็น คนเอเชียชาติอื่นก็ได้ และที่แน่ใจว่าเป็นคนไทย
เพราะเห็นเป็นลูกเสือไทย 1 ท่าน คงจะอยู่แถวนี้แน่ เพราะเวลาที่นักท่องเทียวจะมาถึงที่นี้ก็เวลาประมาณนี้
และแล้วก็จริง เห็นเดินทางไกลมาเลย มีเป้ มีหมวกลูกเสือ ผ้าผูกคอ และธงชาติไทย คนไทยแน่นอน สนุกกันใหญ่

 ลูกเสือ หาทางไปไหน ?

                        เดินไปเดินมาท้องเริ่มร้องครวญคราง หันไปเห็นรถขายอาหาร จึงแวะเข้าไปดู  ตัดสินใจแนะนำให้
เพื่อนใหม่ ชิมแครป ( Crêpes  ) แบบฝรั่งเศส ( ความจริงอยากกินเอง แต่กินคนเดียวก็เกรงใจ...) ได้แครปมาคนละชิ้น 
พร้อมด้วยน้ำ 1 ขวด หมดไป 15 ยูโร ( 750 บาท โดยประมาณ ) แพงแต่อร่อยจริงๆ ถามลูกเสือว่ามีน้ำดื่ม มั๊ย
ได้รับคำตอบว่ามีกระติกเปล่า เพราะตอนขึ้นเครื่องไม่ให้นำน้ำขึ้นมาด้วย แล้วถามต่อไปว่าจะเดินทางไกลไปไหน
ลูกเสือตอบว่า ยังไม่ทราบ ไม่มีจุดหมาย ไม่มีอะไร เลย นอกจาก ลูกเสือเป็นพี่น้องกัน ทั่วโลก งง กับลุงลูกเสือ
เลยแนะนำตัวเองว่า มาดามแมว ลุงลูกเสือทำท่า งง แล้ว นึกว่าเรากวน ลุงเป็นลูกเสือเราเป็นลูกแมว
กว่าจะอธิบายกันเข้าใจ สรุป ได้ความว่า ลุงโจ นั้นเอง ( ชื่อ Jonathan ) หน้าตาออกไทย ชื่อ ซะ เท่...เชียว
มาดามเลยได้โอกาส  ชวนมาร่วมเดินทาง เพราะลูกเสือคงไม่หลงป่า เห็นในเป้สนาม มีแผนที่  มีเข็มทิศ  มีอาหารด้วย
มาดามแนะนำ ให้…ชมหอไอเฟลจนเต็มอิ่ม  สลับกับการมองดูฝูงแมลงวันบินว่อนลงเรือเพื่อล่องแม่น้ำแซน
( la Seine ) ไม่ใช่แมลงวันจริงๆหรอกนะ แต่มันมีที่ไปที่มา ...ฝูงคนที่แออัดยัดเยียด กันลงเรือเพื่อชมทิวทัศน์สองฝั่ง
แม่น้ำแซน เรือที่ว่า ถูกเรียกว่า บาโตมูช ( Bateau Mouche  เรือแมลงวัน ) ส่วนลุงโจเห็นจะลงไปตักน้ำที่แม่น้ำแซน
แต่ลงไปไม่ได้ติดผู้คนที่เข้าแถวลงเรือ ดูท่าลุงโจ ผิดหวังเล็ก เล็ก ( น้ำที่นี่แพงมาก 1 ยูโร กว่า นะ ) ถามลุงโจว่ามาทำอะไร
ที่ ฝรั่งเศส เช่น เยี่ยมลูก ท่องเทียว หางานทำ ลุงโจตอบว่ามาหาลูกเสือ มาดามบอกว่างั้นไป Zoo สิ     ลุงโจ มองหน้า
แล้วบอกว่า Scout นะ แล้วลุงโจก็ ยิงคำถามแบบนักเรียนว่า And you ? มาดามบอกว่ามาพักผ่อนและกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด
ลุง โจทำท่า งง แล้วถามว่า เกิดที่นี่เหรอ เพราะเห็นพูดฝรั่งเศสได้เหมือนคนชาตินี้เลย แต่ทำไมขาวเหมือน
คนฝรั่งเศสเลย  ล่ะ  ดู ลุงถาม....  ตัวเองหล่อตาย ล่ะ  ลุง...  ลุงลูกเสือบอกว่าพูดฝรั่งเศสไม่ได้ มาดามบอกว่าพูดอังกฤษก็ได้
ลุงลูกเสือบอกว่าก็พูดไม่ได้    อ้าว..   สนทนากันพักใหญ่ ลุงลูกเสือขอร้องให้มาดามพาไป  International Scout Center 
ลุงโจเป็นคนไทยที่ทำแบบฝรั่งเลย    แสดงหลักฐานแนะนำตัว ว่าเป็นใคร ทำงานอะไร  ที่เมืองไทย ทำไม ต้อง Scout
เพราะลุงโจ เป็นผู้ช่วยผู้ตรวจการลูกเสือ  มีบัตรมาแสดงให้ดู ทำให้ มาดามตัดสินใจให้รวมทีม  เป็นผู้ร่วมเดินทาง 

คิดว่าคงสนุกแน่ แล้วจะสื่อสารกันอย่างไร  โปรดติดตามตอนต่อไป

                         จากนั้นนั่งรถไฟใต้ดินต่อไป International Scout Center เพื่อเยี่ยมชมกิจการและทักทาย ผู้บริหารสำนักงาน
ได้รับการต้อนรับอย่างดี รวมทั้งได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจการลูกเสือนานาชาติด้วยเผื่อว่าจะได้มีโอกาสจัดตั้งกองลูกเสือ
นานาชาติในหน่วยงานของเราบ้าง ( ถ้ามีโอกาส ) ตอนนี้ละ มาดามเป็น Interpreter แปลว่า ลุงโจ สื่อสารกับชาวต่างชาติได้แล้ว
ขากลับนั่งรถไฟใต้ดินกลับมาชมหอไอเฟล  ยามค่ำคืนสวยจริงๆขอบอก   แต่น่าเสียดายทัศนวิสัย   ไม่ค่อยดีถ่ายรูปออกมา
ไม่ค่อยปิ๊ง ...  เห็นลุงลูกเสือไปทักกับชาวต่างชาติ สนุกกันใหญ่ ขนาดพูดกันไม่รู้เรื่องนะ ไม่รู้ลุงลูกเสือ   ทำได้อย่างไง ?
เป็นความสามารถ พิเศษ ของลุงลูกเสือ ต้องยอมรับในข้อนี้ 

กลับ   หน้าต่อไป   

ติชม อยากอ่านต่อ ส่งกำลังใจมาที่ Email ข้างล้างนี้นะท่าน

ขอสงวนสิทธิ์ ห้ามคัดลอก เพื่อการค้า

   Since : Jan 1 , 1999
   Last update : Jan 9 , 2008
   Brought update by :
THAI Thip Group